ปฏิรูปการศึกษา 4.0 @ดร.ไพโรจน์
การปรับความคล่องตัวและระดมสรรพกำลังเพื่อเปลี่ยนบุคลิกเด็กไทยที่แข็งแรง มีวินัย รักภูมิใจชาติ สามารถเชี่ยวชาญในทางถนัด รับผิดชอบครอบครัว สังคม ต้องเร่ง และในรูปแบบสถานศึกษาในกำกับรัฐแบบเอกชนจะสามารถเร่งได้ทันการ กับ 4.0 และเตรียมรับมือสังคมผู้สูงอายุ ให้มีงานทำ มีความสุขในสังคม โดยที่เด็กเยาวชนนี้จะเป็นผู้ดูแลบริการกลุ่มเป้าหมายได้ด้วยอย่างสามารถและใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม
แผนอนาคตปฏิรูปประเทศจะสำเร็จอย่างยั่งยืนไม่ได้ ถ้าหากการศึกษาของประชาชนและการปกครองยังเหมือนเดิม ขาดความรับผิดชอบต่อผลที่สะท้อนและปรากฏต่อสายตาสังคมปัจจุบัน. แต่คงไม่หมดหวังซะทีเดียวหากการศึกษา การปกครอง การเป็นอยู่ได้นำสิ่งดีๆที่พ่อแม่บรรพบุรุษท่านทำไว้ให้ดีแล้ว ที่สมเด็จพ่อของแผ่นดินทรงประยุกต์เป็นทฤษฎีใหม่ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ศาสตร์พระราชาให้คนไทยและประเทศไทย ประเทศต่างๆทั่วโลก เพราะทางนี้คือต้นทางการพัฒนาคุณภาพทรัพยากร ทั้งปวงโดยเฉพาะอย่างยิ่งทรัพยากรมนุษย์ที่มีปัญญาและสามารถ และจิตอาสา ด้วยสำนึกในพระพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้นี้
เริ่มที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ สังคมต้องถือเป็นหน้าที่สำคัญ มาช่วยกันปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กเห็น ฝึกฝน อบรมบ่มนิสัยตั้งแต่แรกเกิด สร้างเด็กดีมีวินัย รักภูมิใจชาติ สามารถเชี่ยวชาญตามที่ถนัด รับผิดชอบครอบครัว สังคมประเทศชาติอันเป็นที่รักของเรา ตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 60 รอช้าไม่ได้แล้วครับ
ปรับสถานศึกษาให้คล่องตัวมีอิสระรับผิดชอบผล สร้างผู้ผลิต ผู้จัดการงาน มหาวิทยาลัยชุมชนที่ผลิตคนสร้างงานอย่างมีคุณภาพ มีความพอเพียง มีวินัย สุจริต จิตสาธารณะ รับผิดชอบ วัดผลด้วยงานที่จับต้องได้ คุณภาพ เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม อำนวยความสะดวก ต้นทุนต่ำ สูงด้วยคุณภาพ สร้างเครือข่าย เชื่อมโยง สร้างผู้นำใหม่ ผู้จัดการ และเถ้าแก่ใหม่ มีจริยธรรมเป็นที่พึ่ง มีตนเป็นพึ่ง สังคม ประเทศชาติ เชื่อมโยงกันเป็นศูนย์เรียนรู้แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม งดงาม เป็นระเบียบ ผู้คนมีรอยยิ้ม น้ำใจงาม เอื้อเฟื้อเมตตา สามัคคี สิ่งต่างๆเหล่านี้ ต้องมีการบูรณาการจากทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน ประชาสังคม ศาสนา จับมือกันร่วมงานแบบประชารัฐ และสอดคล้องแต่ละภูมิสังคม สุดท้ายคือประเทศไทย 4.0 ทุกด้าน
4 พฤษภาคม 2561